ความสุขจากตัวเราเองนั้นหาได้จากที่ไหนกันบ้าง หลายคนอาจจะบอกว่าไปท่องเที่ยว ไปทะเล หรือมีความสุขกับการกิน แต่จะว่าไป ถ้าเรามองให้ดี ถ้าเราสามารถอยู่กับตนเองได้มากเท่าไหร่ตรงนั้นก็คือความสุขเช่นกัน หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมชาวฝรั่ง ชาวตะวันตก ถึงชอบที่จะนั่งจิบกาแฟคนเดียวแล้วก็มีหนังสือสัก 1-2 เล่มตามแต่จะมีเวลาอำนวย แทนที่จะเล่นโทรศัพท์มือถือ หรือใช้เวลากับผู้คนรอบตัวมากกว่าที่จะใช้เวลาอยู่กับตัวเอง
ในความจริงแล้ว เคยมีคนได้กล่าวไว้ว่า ความสุขของเรานั้น อยู่ที่เราสามารถมีสมาธิหรือมีความสุขกับการได้หาความรู้เข้าหาตัวเอง และการอ่านหนังสือก็เช่นกัน การอ่านหนังสือนั้น จัดเป็นเรื่องที่อยู่กับตนเองมากที่สุด หลายครั้งที่เราได้เห็นชาวต่างชาตินั่งอยู่ที่เดิมเป็นเวลาหลายชั่วโมง อยู่ที่เดิมเพิ่มเติมก็แค่ขนมกับน้ำแต่ก็มีรอยยิ้มอยู่กับตัวเองได้นานเท่านั้น เพราะเขาเหล่านั้นกำลังตกอยู่ในสภาวะ “หลุดพ้น” หลุดพ้นตรงนี้คือการหลุดพ้นจากสิ่งรอบตัว หลุดพ้นจากเรื่องของผู้อื่น หรือเราไม่ได้ไปสนใจเรื่องไกลตัวมากนัก ช่วงเวลานี้ ทั้งจิตใจและร่างกายจะมีความสุขกับสิ่งที่ได้อยู่ตรงหน้าอย่างมาก ไม่น่าเชื่อว่าหลายคนยังงงกับคนที่อ่านหนังสือแบบไม่มีภาพประกอบหนากว่ากล่องพิซซ่าถึง 3 เท่าได้อย่างไร คนที่ไม่นิยมการอ่านก็สงสัยเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อไหร่ที่คนเหล่านี้ได้เจอกับหนังสือที่ชอบ หนังสือที่ทำให้เราสามารถหลุดพ้นได้ก็จะแนะนำต่อได้ไม่ยากเช่นกัน
แล้วเราจะทำอย่างไรให้คนที่ไม่ชอบหรือไม่ได้รักการอ่านกลับมาอ่านหนังสือดูบ้าง สำหรับเด็กๆแล้วก็คงจะไม่ยากนักอาจจะใช้ภาพประกอบเข้าไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเลย เพียงแค่มีผู้ใหญ่แนะนำทำความเข้าใจให้เด็กได้รับรู้ถึงข้อดีเยอะที่สุด แล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่จะทำให้เด็กๆ สนใจเพิ่มคือ การสร้างความตื่นเต้น ในการอ่าน นอกจากการอ่านที่ทำความเข้าใจแล้ว จำเป็นที่จะต้องทำให้เด็กๆ รู้เพิ่มไปอีกนิดว่า การอ่านนั้น สามารถสร้างจินตนาการได้หลากหลายที่เราก็ไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่า ตอนที่เด็กๆ กำลังอ่านเรื่องราวเหล่านี้กำลังมีความสุขระดับไหน แต่เราสามารถสังเกตได้จากท่าทางและกิริยา รวมถึงสายตาของเด็กๆเหล่านั้นได้
แต่สำหรับผู้ใหญ่แล้วก็อาจจะเป็นเรื่องที่ยากสักหน่อยการชักชวนให้หันมารักการอ่านแต่ก็ไม่ได้ยากเกินกว่าจะชวนกันมาอ่อนได้ สำหรับคนที่ชอบการอ่านอยู่แล้ว เราก็เพียงแค่ ทำ 5 ขั้นตอนเหล่านี้ก็สามารถที่จะทำให้คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ หรือคนที่รักการอ่านอยู่แล้วแต่ลืมไปกลับมาอ่านหนังสือใหม่ได้เช่นกัน
5 ขั้นตอนที่จะทำให้คนกลับมาอ่านหนังสืออีกครั้ง
1.เริ่มต้นจากสิ่งที่ชอบ
ทุกคนอ่านหนังสือเป็นและในส่วนลึกก็จะมีหนังสือที่ตนเองนั้นชอบอยู่ไม่น้อย ลองกลับไปอ่านหนังสือเล่มเก่าเหล่านั้นดู หรือสำหรับคนที่มีเพื่อน และอยากให้เพื่อนได้กลับมาใช้เวลาว่างกับการอ่านหนังสืออีกครั้งก็อาจจะชวนกันนึกถึงตอนที่เคยไปเช่าหนังสือการ์ตูนมาอ่านด้วยกัน นึกถึงความหลังแบบเก่าดูบ้าง ไม่เพียงแค่ได้เรื่องอ่านแต่เพียงอย่างเดียว ยังได้คิดถึงความสุขที่เคยได้อ่านหนังสือสมัยนั้นด้วย
2.หนังสือการ์ตูนสอนได้ทุกอย่าง
ผู้ใหญ่หลายๆ คนอาจจะบอกว่า “วันๆเอาแต่อ่านหนังสือการ์ตูน” เมื่อก่อนผู้ใหญ่มักจะบอกกับเราแบบนี้เสมอทำให้เด็กหลายคนเริ่มที่จะไม่ค่อยชอบการอ่านซึ่งจริงๆแล้ว การอ่านหนังสือการ์ตูนสามารถฝึกและสอนเราได้หลายอย่างเป็นที่สุด หนังสือการ์ตูนบางเรื่องสอนเรื่อง การเข้ากับคน บางเรื่องสอนในเรื่องความรัก บางเรื่องก็สอนในเรื่องการคบเพื่อน เราลองกลับไปอ่านหนังสือการ์ตูนดูก่อนสักเล็กน้อย แล้วเดี๋ยวเราก็จะได้อ่านหนังสือที่เป็นสาระสำคัญจริงๆ แบบไม่รู้ตัว
3.แนะนำและบอกต่อ
การแนะนำและบอกต่อ ใช้ได้ดีกับทุกอย่างตลอดกาล อย่างเช่น การที่เราได้ไปกินอาหารกับร้านอร่อยเราก็จะมาแนะนำและบอกต่อว่าร้านนี้อร่อย ดี ไม่แพง หรือจะแนะนำอย่างไรให้กับคนที่เราสนิท เพื่อนหรือคนที่เรารักได้เป็นอย่างดี หนังสือก็เช่นกัน ถ้าเราเป็นคนที่รักการอ่านอยู่แล้วไม่แปลกเลยที่จะแนะนำหนังสือดีๆให้เพื่อนได้ลองอ่านสักเล่ม อย่างเช่นถ้าเรารู้ว่าคนนี้เขากำลังที่จะหาอาชีพเสริม ก็ลองให้เขาอ่านหนังสือที่แนะนำการสอนทำอาชีพเสริมต่างๆ แน่นำว่าในโลกอินเตอร์เน็ตนั้นมีเรื่องราวเหล่านี้อยู่อย่างมากมาย แต่สุดท้ายสาระสำคัญจริงๆ ไม่ได้เน้นที่บอกต่อแต่เน้นเรื่องการโฆษณาร้าน ไม่ก็ บอกขายเฟรน์ชาย แต่สำหรับหนังสือจะให้เกร็ดความรู้ที่แน่นกว่า เข้าใจได้ง่ายกว่า
4.ใช้รูปภาพประกอบเยอะๆ
บางครั้งเราก็ชอบดูมากกว่าชอบอ่าน ไม่แปลกเพราะเราคิดว่าการดูง่ายกว่าจดจำได้ง่ายกว่า มันก็เป็นการเปิดทางได้ดี ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเราได้ตาดู หูฟังแล้วก็อ่านไปด้วย มันจะยิ่งดีกว่าแค่ไหน ถ้าคนไหนที่เขาชอบเรื่องไหนก็ลองแนะนำรูปภาพให้เขาได้ดูกันก่อนแล้วก็ค่อยตามมาถึงเรื่องการอ่านเพิ่มเติมเข้าไปไม่ยากเลย
5.ชวนอ่านทุกอย่างที่เป็นเรื่องสนุก
การอ่านทุกอย่างที่เป็นเรื่องสนุกถึงแม้จะเป็นคำสั้น ๆ หรือเป็นแค่บทความเล็กน้อยก็จัดว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีบางครั้งอ่านแล้วดี ก็จะเริ่มคิดอยากจะเขียนเป็นของตัวเองบ้าง